
เกมไพ่แบล็คแจ็คที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้
แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นรูปแบบของเกมไพ่ ที่รู้จักกันในชื่อ Twenty-one (ยี่สิบเอ็ด) ใช้วิธีการวัดผลแพ้ชนะด้วยผลรวมของแต้มในมือ ระหว่างเจ้ามือและผู้เล่น โดยผู้เล่นจะชนะก็ต่อเมื่อ มีแต้มมากกว่าเจ้ามือ และแต้มรวมทั้งหมดในมือจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 21 แต้ม (จะเรียกว่า แบล็คแจ็ค) ซึ่งเป็นแต้มรวมที่สูงที่สุดสำหรับการเดิมพันรูปแบบนี้

ต้นกำเนิดของเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่ามีที่มาที่ไปของการวางเดิมพันมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเกมการเดิมพันที่ชื่อว่า vingt-et-un (แปลตรงตัวได้ว่า 20 และ 1 หรือ 21 นั่นเอง)
ลักษณะของเกมนี้จะมีการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นที่คล้ายกันกับกติกาของแบล็คแจ็คในปัจจุบัน ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของเกมคือ การลุ้นผลรวมของแต้มในมือให้มากที่สุด แต่ต้องไม่เกิน 21 แต้ม
เกม ไพ่ 21 แต้มนี้ ถูกเปิดตัวอย่างกว้างขวางในประเทศอเมริกา ราวปี ค.ศ. 1800 แต่ในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้รับความนิยมในคาสิโนมากนัก ถึงขั้นที่มีการเสนอการจ่ายผลตอบแทน 10 ต่อ 1 หากผู้เข้าร่วมเดิมพันสามารถที่จะชนะด้วยแต้มแบล็คแจ็คในไพ่ 2 ใบแรก
เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นเกมรูปแบบนี้เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งเริ่มได้รับความนิยมและถูกตั้งชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า แบล็คแจ็ค
วิธีเล่นแบล็คแจ็ค แม้ว่าไม่ได้มีความยุ่งยาก ทั้งการเดิมพันในรูปแบบออนไลน์ และโต๊ะเดิมพัน คำศัพท์ต่างๆที่นำมาใช้ในการเดิมพัน ดังนี้

ศัพท์แบล็คแจ็ค | ความหมาย |
Blackjack Hit | การชนะกันภายในไพ่ 2 ใบแรกซึ่งจะเป็นการชนะที่แต้มรวมที่ 21 แต้มเท่านั้น เป็นการเรียกไพ่เพิ่มหลังจากแจกไพ่ 2 ใบไปให้ผู้เล่นแล้วซึ่งเราสามารถที่จะเรียกไพ่เพิ่มเท่าไหร่ก็ได้ตามความพอใจของการเดิมพัน |
Stand (Stay, Stick, Stand pat) | เป็นการหยุดการขอไพ่หรือพอใจในหน้าไพ่ที่มีอยู่ซึ่งอาจจะเรียกว่า พอ , อยู่ หรือ ยืน ก็ได้ |
Double Down | เป็นการเพิ่มมูลค่าการเดิมพันหลังจากมีการแจกไพ่ครบ 2 ใบแล้วซึ่งการเพิ่มมูลค่าการเดิมพันนั้นสามารถวางเดิมพัน เพิ่มขึ้นได้ 100% ตาม กฎของแบล็คแจ็ค |
Split | เป็นรูปแบบของการแยกไพ่หรือขอแยกไพ่ในกรณีที่ได้รับการแจกไพ่ซึ่งมีรูปแบบของหน้าไพ่ที่มีแต้มเท่ากันทั้ง 2 ใบเช่นการได้รับแต้ม 3 แต้มพร้อมกันหรือแต้มเท่าไหร่ก็ตามเราสามารถที่จะทำการแยกไพ่ออกได้เป็น 2 ชุด |
Surrender | การหมอบหรือยอมแพ้ซึ่งจะเป็นการยอมหลังจากได้ไพ่ 2 ใบแล้วเท่านั้นแต่ในกรณีที่มีการขอไฟเพิ่มไม่สามารถที่จะบอกได้ |
Insurance หรือ ประกัน | เป็นรูปแบบของการขอประกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นมา ซึ่งจะทำได้ในกรณีที่มีการแจกไพ่ครบ 2 ใบแล้วเท่านั้นเมื่อมีการขออภัยเพิ่มเราไม่สามารถที่จะทำการประกันได้ซึ่งโดยปกติแล้วการประกันจะต้องเพิ่มเงินลงไปอีกครึ่งเท่าของมูลค่าเงินเดิมพันของนักพนันเองเพื่อเป็นการการันตีหากเจ้ามือแพ้แต้มเราก็จะสูญเสียเงินประกันเหล่านั้นไปแต่ในกรณีเจ้ามือชนะหรือได้ แบล็คแจ็ค เราก็จะได้เงินเต็มจำนวนพร้อมด้วยเงินประกันที่ลงไปเต็มจำนวน แต่จะมีให้เดิมพันเฉพาะในคาสิโนเท่านั้น |
- เราได้ไพ่แบล็คแจ็ค (Natural Blackjack หรือไพ่ A + 10) แต่เจ้ามือไม่ได้ ถ้าชนะแบบนี้เราจะได้เดิมพัน 1.5 เท่า (2 : 3) กลับกัน ถ้าเจ้ามือได้ไพ่ Blackjack 21 แต่เราไม่ได้ เราจะแพ้ทันทีเช่นกัน แต่เราจ่ายเท่าเดียว (1 : 1)
- เจ้ามือจั่วจนทะลุ 21 แต้ม (Bust) กล่าวคือ เจ้ามือจะหงายไพ่ใบที่ 2 เมื่อเราทำไพ่เสร็จ และถ้ามีแต้มรวมไม่ถึง 17 เจ้ามือจะจั่วไปจนกว่าจะได้ 17 ขึ้นไป หรือทะลุ 21 แต้ม ในทางกลับกัน ถ้าเราจั่วจนทะลุ 21 แต้ม เราจะแพ้ทันทีเช่นกัน
- เรามีแต้มรวมใกล้ 21 แต้มมากกว่าเจ้ามือ กล่าวคือ ในกรณีที่ไม่มีใครจั่วจนทะลุ 21 แต้ม ผลเดิมพันจะวัดกันที่แต้มรวม และแต้มรวมสูงสุดคือ 21 แต้ม โดยถ้าชนะแบบนี้ เราจะได้เดิมพัน 1 เท่า (1 : 1) ยกเว้นถ้าเราเลือกเบิ้ลสองเท่าหรือแยกไประหว่างเกม
ในการเล่น แบล็คแจ็ค ตาม คาสิโนออนไลน์ ส่วนใหญ่จะใช้ไพ่ 6 สำรับสับตำแหน่งไว้แล้วใส่ในขอนคล้ายกับบาคาร่า แต่ไม่ว่าจะใช้ไพ่มากน้อยแค่ไหน การนับแต้มไพ่ก็จะยังเหมือนเดิมคือ
- ไพ่ A (Ace) มีค่า 1 แต้มเมื่ออยู่กับไพ่แต้ม 2-9 และจะมีค่า 11 แต้มเมื่อออกคู่กับไพ่ 10, J, Q, K
- ไพ่แต้ม 2-10 มีแต้มไพ่เท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่หน้า J, Q, K มีแต้มไพ่เท่ากับ 10 แต้ม

สรุป
เว็บพนันของเราได้นำประวัติความเป็นมาของเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์มาฝากผู้เล่นรวมไปถึงกติกาในการเล่นเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ และเทคนิคการเอาชนะเจ้ามือในการเล่นเกมพนันแบล็คแจ็ค GDNSlot หวังว่าผู้เล่นจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเกมพนันไพ่แบล็คแจ็คไปแล้วมาลองเล่นเกมพนันกับทางเรากันนะคะ